- Back to Home »
- ตอนที่1 กลียุค
Posted by : Unknown
พฤษภาคม 29, 2556
เมื่อ จิ๋นซีฮ่องเต้ ในราชวงศ์ฉินสิ้นพระชนม์ลง อำนาจของราชวงศ์ฉินนั้นลดถอยลง มีการลุกฮือจากประชาชนและบรรดาเชื้อสายเจ้าผู้ครองแคว้นเดิม มีการตั้งตัวเป็นใหญ่ในทุกหัวระแหงของแผ่นดิน หลิวปัง ก็เป็นหนึ่งในคนที่เพาะสร้างอำนาจขึ้นจากขุมกำลังเล็ก ๆ ต่อมาได้เปิดศึกแย่งชิงบัลลังก์กับ เซี่ยงหวี่ การศึกครั้งนั้นได้รับการขนานนามว่า "สงครามฉู่ฮั่น" กินเวลานาน 4 ปี จนกระทั่งถึงปี 202 ก่อนคริสตศักราช หลิวปัง ได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์จักรพรรดิ์ สถาปนาราชวงศ์ฮั่น
จิ๋นซีฮ่องเต้ |
หลิวปัง หรือ พระเจ้าฮั่นโกโจ |
เซี่ยงหวี่ |
พระเจ้าฮั่นโกโจและพระราชวงศ์ได้ครองราชย์สมบัติต่อ ๆ มา ถึง 12 องค์
ตอนปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ขุนนางชื่อ “อองมัง” ชิงราชสมบัติตั้งตนขึ้นเป็นเจ้าครองแผ่นดิน ก่อตั้งราชวงศ์ซินขึ้น และ จัดระเบียบการปกครองใหม่ ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่พอใจ เกิดเป็นกบฏชาวนาในพื้นที่ต่าง ๆ อยู่ถึง 18 ปี ก็มีเชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าฮั่นโกโจชื่อ “ฮั่นกองบู๊” ชิงราชสมบัติกลับคืนได้ เสวยราชย์สืบเชื้อพระวงศ์ต่อมาอีก12 องค์ จึงเป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ฮั่น
อองมัง |
ฮั่นกองบู๊ |
ฮ่องเต้องค์ที่สามก่อนสิ้นราชวงศ์ฮั่นทรงพระนามว่า “ฮั่นเต้” คงจะเป็นหมัน จึงไม่มีพระราชบุตรสืบสันตติวงศ์
แต่แทนที่จะยกเอาเชื้อพระวงศ์ผู้มีสติปัญญาคนหนึ่งคนใดขึ้นเป็นมหาอุปราช
เพื่อเตรียมสืบราชวงศ์ต่อไป กลับไปขอลูกชาวบ้านมาเลี้ยง ตั้งเป็นพระราชบุตร
แล้วโปรดให้ขันทีเลี้ยงดูมาแต่น้อย ต่อมาทรงสถาปนาเป็นที่รัชทายาท การกระทำผิดธรรมเนียมประเพณีในการปกครองแผ่นดินของฮั่นเต้คือเหตุสำคัญที่ทำให้ราชวงศ์ฮั่นดับสูญ และราชบัลลังก์ตกเป็นสิทธิแก่คนอื่น
ดังนั้นเลนเต้จึงไม่ใช่เชื้อพระราชวงศ์ฮั่น เป็นลูกกาฝาก
หากจะกล่าวถึงที่สุดแล้วก็ย่อมกล่าวได้ว่าราชวงศ์ฮั่นได้หมดสิ้นไปตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้าฮั่นเต้แล้ว
ราชบัลลังก์หลังจากนั้นตกได้แก่คนแซ่อื่น เลนเต้ลูกชาวบ้าน
เมื่อได้ดิบได้ดีเป็นรัชทายาทก็ถือตัวว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่นไปด้วย
ครั้นได้เสวยราชย์ทรงพระนามว่า “พระเจ้าเลนเต้”
พระเจ้าเลนเต้ |
แต่สันดานชาติเชื้อที่มิใช่เผ่าวงศ์กษัตริย์ และอัธยาศัยที่ถูกสร้างสม
มาจากการเลี้ยงดูของขันทียังคงติดตัวมาจึงกำเริบขึ้น
ครั้นพระเจ้าเลนเต้เสวยราชย์ได้สิบสองปี
พระเจ้าเลนเต้ประทับ ณ พระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน
เวลาเที่ยงเกิดอาเพศใหญ่ขึ้นในบ้านเมือง เป็นสัญญาณจากสวรรค์ที่บ่งบอกว่า
แผ่นดินเกิดกลียุค
ณ
เวลานั้นเพลาเที่ยงเกิดลมพายุหนัก มีงูสีเขียวตัวใหญ่ตกลงมาพันอยู่ที่เท้าพระเก้าอี้
พระเจ้าเลนเต้ตกพระทัย กระทั่งสิ้นพระสติ
พักหนึ่งงูใหญ่ก็หายไปแล้วเกิดฟ้าร้องฝนตกห่าใหญ่
ลูกเห็บขนาดใหญ่ตกบ้านเรือนราษฎรพังทะลาย พระตำหนักถูกพายุลูกเห็บพัดพังหลายตำหนัก
จนถึงเที่ยงคืนฝนจึงหยุด หลังจากนั้นอีก 4 ปี ณ เดือนยี่
เมืองลกเอี๋ยงซึ่งเป็นเมืองหลวงเกิดแผ่นดินไหว น้ำทะเลเกิดคลื่นใหญ่ท่วมบ้านเมือง
และบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำพัดพาหายไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์แปลกปละหลาดอีกอย่าง คือ "ไก่ตัวเมียสามารถขันได้กลายเป็นไก่ตัวผู้"
ถัดมาในเดือน 6 ขึ้นค่ำหนึ่งเกิดควันเพลิงพุ่งขึ้นไปสูง 20 วา แล้วพุ่งเข้าไปในพระที่นั่งอุ่นต๊กเตี้ยน รุ่งเดือน 7 เกิดรัศมีรุ้งตกในพระบรมมหาราชวัง ภูเขารันซัวแตกทลายลง
ดาวจระเข้ดวงที่เป็นตำแหน่งของพระมหากษัตริย์สีแดงเศร้าหมองและริบหรี่คล้ายกับจะดับสูญ
นิมิตและลางลักษณะนี้ถือว่า
เป็นนิมิตและลางร้ายที่จะเกิดกลียุคขึ้นในบ้านเมืองนับเป็นอาเพศที่มีผลกระทบต่อบ้านเมือง
กระทบต่อผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองและราษฎรเป็นส่วนรวม
เนื้อเรื่องบางส่วนจาก
สามก๊กฉบับคนขายชาติ